ภาคประชาชน เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด รุกใหญ่ หลักเดินทางไปดูงาน จะ เอ็กซเรย์ พื้นที่ หา ผู้เสพ ผู้ค้า
ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ข
พล.อ.วิชาญ สุขสง ประธานยุทธศาสตร์ การแก้ปัญหายาเสพติด ภาคประชาชน ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นโครงการขับเคลื่อนโดยกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เตรียมนำ ประชาชนที่เป็นตัวแทนของ ตำบลอาสา แก้ปัญหายาเสพติด จาก 65 ตำบล ตำบลละ 2 คน จำนวน 13 คน เดินทางไปดูงานการแก้ปัญหายาเสพติด ที่ดำเนินการโดยภาคประชาชน และประสพความสำเร็จ ที่เนรียกว่า ตำบลต้นแบบ ที่ ต.วังเพนียด อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี และที่ ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ในระหว่างวันที่ 21-23 เมษายน โดยการประสานงานกับ กองทัพ ในการเดินทาง จาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทางเครื่องบินลำเลียง C 130 ไปยัง กรุงเทพฯ และดินทางโดยรถยนต์ไปยัง จ.ลพบุรี หลังการดูงาน ตำบลต้นแบบ ทั้ง 2 จังหวัด คณะของตัวแทนตำบลอาสา ก็จะเข้าพบกับ พ.ต.อ.ทวี สองส่อง รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม เพื่อรับฟังนโยบายของกระทรวงยุติธรรมในเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติด ก่อนที่จะเดินทางกลับจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย ขบวนรถใต้สายใต้
พล.อ.วิชาญ กล่าวว่า หลังจาก กลับจากการดูงานของ ตำบลต้นแบบ คณะขับเคลื่อนการแก้ปัญหาภาคประชาชนในการแก้ปัญหายาเสพติด ก็จะรุกหนักในพื้นที่ของตำบลต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการ 65 ตำบล เพื่อทำการ เอกซเรย์พื้นที่ หาผู้เสพ และ ผู้ค้า เพื่อดำเนินการตามแผนการของ การแก้ปัญหายาเสพติดในตำบลที่เข้าร่วมโครงการ เช่น ผู้เสพต้องถูกจับกุม เพื่อเข้าสู่ขบวนการตามกฎหมายทั้งการถูกจำคุก และการเข้ารับการบำบัด ส่วนผู้ค้าก็จะมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยใช้ กฎหมาย เข้าดำเนินการ เพื่อให้ทุกตำบลที่เข้าร่วมโครงการ เป็นพื้นที่ปลอดยาเสพติด
จะมีการเปิดเวทีชาวบ้านในทุกตำบลที่เข้าร่วมโครงการการแก้ปัญหายาเสพติดครั้งนี้ เพื่อการรับฟังข้อคิดเห็นจาก ชาวบ้าน เพื่อใช้ในการเป็นแผนในการแก้ปัญหา ยาเสพติด เพราะการแก้ปัญหายาเสพติด โดยภาคประชาชน ต้องมาจากความคิดเห็น และความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านจะรู้ปัญหาดีกว่าหน่วยงานอื่นๆ เพราะ ชาวบ้าน อยู่กับปัญหา และผู้ เสพ ผู้ค้า ก็เป็นคนใน หมู่บ้าน ตำบล และ ผู้ที่ได้รับผลกระทบในเรื่องของยาเสพติด ก็เป็นครอบครัวของชาวบ้าน
นอกจากนั้น จะมีการ ขับเคลื่อน ด้วยการ แข่งขันกีฬา ที่เป็นที่ต้องการของคนในพื้นที่ว่า อยากจะมีการให้คณะขับเคลื่อน ใช้กีฬาอะไรในการสร้างกิจกรรม เพื่อดึงเยาวชนกลุ่มเสี่ยง ออกจากวงจรของยาเสพติด เพราะ เยาวชนกลุ่มเสี่ยง ซึ่งยังไม่ได้ถูกดึงเข้าวงจรของการเป็นผู้เสพ ผู้ค้า จะเป็นคนกลุ่มใหญ่ในทุกพื้นที่ ถ้าสามารถป้องกันเยาวชน และ ประชาชน กลุ่มนี้ได้ และในขณะเดียวกัน ถ้าสามารถนำผู้เสพออกจากพื้นที่ และจับกุมผู้ค้าในพื้นที่ให้ได้ ก็จะสามารถบรรลุผลของตำบลปลอดยาเสพติด โดยภาคประชาชน
พล.อ.วิชาญ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ร่วมกับ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ทั้งการพบปะ ประชาชน ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น รวมทั้งการประชุมร่วมกับหน่วยงานต่างๆของกระทรวงยุติธรรมในพื้นที่ และการเข้าตรวจเยี่ยมเรือนจำต่างๆ พบว่าปัญหายาเสพติด ยังเป็นปัญหาหลัก และปัญหาใหญ่ที่ต้องใช้เวลาในการแก้ไขในทุกมิติ ทั้งเรื่อง การบำบัด การ คุมขัง การฝึกอาชีพ และมีอาชีพให้กับผู้ที่พ้นโทษ หรือผ่านการบำบัด เพื่อให้เขามีอาชีพเลี้ยงตัวและครอบครัว เพื่อที่จะไปกลับไปเป็นผู้ค้า ผู้เสพ และปัญหาที่ภาคประชาชนสะท้อนให้รับทราบคือ สถานที่บำบัดของรัฐไม่เพียงพอ สถานที่บำบัดของเอกชน ได้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐเท่าที่ควร และที่สำคัญ ผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ ผู้นำศาสนา และประชาชน แสดงความไม่เห็นด้วยกับ นโยบายการครอบครองยาบ้า 5 เม็ดเป็นผู้เสพของกระทรนวงสาธารณสุข ซึ่งเสียงสะท้อนเหล่านี้ รัฐบาล จะต้องรับฟัง และนำไปเพื่อแก้ไข