🔴「”วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาฯ-พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ“ ส่งทีมจิตอาสา พรรคประชาชาติ จากจังหวัดชายแดนใต้ กว่า 500 คน บิ๊กคลีนนิ่ง ‘ฟื้นฟูหาดใหญ่-สงขลา’」

• Facebook
• Twitter
• Line

🔴「”วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาฯ-พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ“ ส่งทีมจิตอาสา พรรคประชาชาติ จากจังหวัดชายแดนใต้ กว่า 500 คน บิ๊กคลีนนิ่ง ‘ฟื้นฟูหาดใหญ่-สงขลา’」

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ นำทีมจิตอาสาพรรคประชาชาติ จาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กว่า 500 คน ลงพื้นที่ช่วยฟื้นฟูน้ำท่วมหาดใหญ่ ย้ำน้ำใจคนใต้ไม่ทิ้งกัน

(7 ธันวาคม 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ว่า พรรคประชาชาติ นำโดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะ หัวหน้าพรรคประชาชาติ และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ, นายซูการ์โน มะทา เลขาธิการพรรคประชาชาติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดยะลา, นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชาติ จังหวัดนราธิวาส, นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, นายสุไลมาน บือแนปีแน สภาผู้แทนราษฎร จังหวัดยะลา รวมทั้ง นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส และคณะฯ รวมทั้ง คณะพรรคเพื่อไทย นำโดย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่วมปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนที่ประสบมหาอุทกภัยในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา อย่างต่อเนื่อง ทั้งการสนับสนุนการฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย การทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชน การล้างทำความสะอาดบริเวณมัสยิด ด้วยจิตอาสาจำนวนหลายร้อยคน การสนับสนุนรถแทรกเตอร์ตักขยะ เพื่อเร่งให้พื้นที่ต่างๆ กลับคืนสู่สภาวะปกติอย่างรวดเร็วและปลอดภัย

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะ หัวหน้าพรรคประชาชาติ เปิดเผยในระหว่างการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยว่า วันนี้พรรคประชาชาติ ได้มีการระดมกำลังจิตอาสาเดินทางมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งจังหวัดยะลา ปัตตานีและนราธิวาส โดยจัดรถบัสจังหวัดละ 3 คัน เพื่อนำกำลังคนเข้ามาช่วยฟื้นฟูพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยเฉพาะในเขตหาดใหญ่และบริเวณวงเวียนน้ำพุ ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความสามัคคีและความมีน้ำใจของพี่น้องปลายด้ามขวาน ที่เมื่อครั้ง 3 จังหวัดมีเหตุการณ์ พี่น้องชาวหาดใหญ่ก็เคยลงไปช่วยเหลือ ครั้งนี้จึงถือเป็นการมาตอบแทนน้ำใจและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

“กลุ่มเยาวชน ครู และจิตอาสา เตรียมพร้อมทั้งเครื่องมือและเสบียงอาหารมาเอง เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ผู้ประสบภัย โดยมี นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส มาร่วมช่วยเหลือตั้งแต่น้ำท่วมวันแรก และหากสถานการณ์ยังไม่เข้าสู่สภาวะปกติ เราก็จะระดมความช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง” พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าว

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ในฐานะ หัวหน้าพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังได้ร่วมกันฝากข้อเสนอแนะถึงรัฐบาลในการบริหารจัดการสถานการณ์หลังน้ำลด โดยเน้นย้ำใน 3 ประเด็นสำคัญ คือ

1.การสื่อสารและความโปร่งใส และตรวจสอบการทุจริต: รัฐบาลต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนด้วยการตรวจสอบการใช้งบประมาณช่วยเหลืออย่างเข้มข้น ไม่ควรปล่อยให้เกิดความคลางแคลงใจเรื่องการทุจริตซ้ำเติมผู้ประสบภัย

2.การจัดการร่างผู้เสียชีวิต: ต้องเร่งกระบวนการตรวจสอบและพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล เพื่อส่งมอบร่างผู้เสียชีวิตกลับคืนสู่อ้อมอกของญาติพี่น้องโดยเร็วที่สุด

3.การฟื้นฟูเยียวยาและเศรษฐกิจ: แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ การเยียวยา: รัฐต้องมองตามสภาพความเป็นจริง เนื่องจากทรัพย์สินของประชาชนเสียหายเกือบ 100% จะยึดเพียงกรอบระเบียบเดิมไม่ได้ ต้องมีกลไกพิเศษเพื่อคืนชีวิตให้ประชาชน

การกู้วิกฤตขยะและฟื้นฟูเมือง: พบปัญหากองขยะสะสมสูงเท่าตึก 3 ชั้นในหลายจุด ซึ่งเกินกำลังที่ประชาชนจะจัดการเองได้ หน่วยงานรัฐต้องเร่งนำเครื่องจักรเข้ามาจัดการทันที

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ: สงขลาและหาดใหญ่เป็นเมืองเศรษฐกิจหลัก หากรัฐบาลไม่มีแพ็กเกจช่วยเหลือด้านการท่องเที่ยวที่ชัดเจนก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่ จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมการท่องเที่ยวของประเทศอย่างแน่นอน แต่ก่อนจะดึงนักท่องเที่ยวกลับมา สภาพบ้านเมืองต้องได้รับการฟื้นฟูให้กลับมาสะอาดเรียบร้อยเสียก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ในฐานะ หัวหน้าพรรคประชาชาติ และคณะจากพรรคประชาชาติ และคณะพรรคเพื่อไทย นำโดย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และคณะฯ เดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะและให้กำลังใจประธานและคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางสำคัญในการประสานงานดูแลพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ และรับฟังการบรรยายสรุปการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร ในช่วงบ่าย