รวบวัยรุ่นควงซามูไรออกชิงทรัพย์ในตัวเมืองเชียงใหม่ ไถเงินคนไปได้ครั้งละ 50-100 บาท สารภาพทำไปเพราะคึกคะนอง ตำรวจภาค 5 ขยายผล ปราบปราม อย่างเคร่งครัดเพื่อความสงบสุขของประชาชน

Uncategorized

รวบวัยรุ่นควงซามูไรออกชิงทรัพย์ในตัวเมืองเชียงใหม่ ไถเงินคนไปได้ครั้งละ 50-100 บาท สารภาพทำไปเพราะคึกคะนอง ตำรวจภาค 5 ขยายผล ปราบปราม อย่างเคร่งครัดเพื่อความสงบสุขของประชาชน

เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 67 เวลา 11.00 น.โดยการอำนวยการของ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รอง ผบช.ฯ ช่วยราชการ ภ.5 , รอง ผบก.สส.ภ.5 , รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ , ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ และ ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าว กรณีเหตุผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทรัพย์ ย่านถนนคันคลองชลประทาน ถนนสุเทพหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ชุมชนวัดอุโมง ต่อเนื่อง ถนนในหมู่บ้านแกรนวิว รวม 5 เคส ผู้เสียหาย 5 คน

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย จำนวน 5 ราย แจ้งว่า มีคนร้ายขับขี่รถจยย. ใช้อาวุธมีดมาข่มขู่เพื่อขอเงิน โดยก่อเหตุหลายครั้ง ประกอบด้วย

เมื่อวันที่ 27 เม.ย.67 เวลาประมาณ 04.40 น. ขณะที่ผู้เสียหายคนที่ 1 กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ อยู่ที่บริเวณ ถ.สุเทพ (ด้านหลัง มช.) ต.สุเทพ อ.เมือง จว.เชียงใหม่ มุ่งหน้าไปทางประตูวิศวะ ได้มีผู้ต้องหา จำนวน 2 คน ขับขี่รถจยย. เข้ามาหาในลักษณะประกบด้านข้าง พร้อมพูดบอกให้ผู้เสียหายส่งเงินสดมาให้จำนวน 100 บาท พร้อมแสดงอาวุธมีดให้ผู้เสียหายดู ผู้เสียหายเกิดความตกใจจึงได้เร่งความเร็วแล้วขับหลบหนีไป ส่วนผู้ต้องหาไม่ได้ติดตามไปแต่อย่างใด

ต่อมาผู้ต้องหาได้กลับรถ แล้วขับรถไปหาผู้เสียหายรายที่ 2 ซึ่งกำลังขับขี่รถจยย.ในบริเวณใกล้เคียงกัน โดยมุ่งหน้าไปทางสี่แยกต้นพยอม พร้อมพูดจาและแสดงอาวุธมีดให้ผู้เสียหายดูเพื่อข่มขู่เอาเงินจากผู้เสียหายที่ 2 แต่ผู้เสียหายเกิดความตกใจจึงได้เร่งความเร็วแล้วขับหลบหนีไป ซึ่งผู้ต้องหาก็ไม่ได้ขับติดตามไปแต่อย่างใด

ผู้ต้องหาจึงได้ขับรถกลับมายัง ถ.สุเทพ มุ่งหน้าไปทางประตูวิศวะอีกครั้ง และ เจอผู้เสียหายที่ 3 ขับรถ จยย.อยู่จึงเข้าประกบอีกครั้ง ผู้เสียหายเกิดความตกใจจึงได้เร่งความเร็วแล้วขับหลบหนีไป โดยหลบหนีไปทางประตูเชียงใหม่

ผู้ต้องหายังได้ขับขี่หลบหนีเข้าไปในย่านชุมชนวัดอุโมงค์ และ ไปเจอกับผู้เสียหายที่ 4 จึงเข้าประกบอีกครั้ง โดยครั้งนี้ผู้เสียหายได้มอบเงินเหรียญให้ผู้ต้องหาไป ประมาณ 50 บาท จากนั้นผู้ต้องหาได้ขับขี่ไปทิศทางย่านหมู่บ้านแกรนด์วิว และได้เข้าประกบกับผู้เสียหายรายที่ 5 ซึ่งผู้เสียหายแจ้งว่าไม่มีเงิน ผู้ต้องหาจึงได้ขับขี่หลบหนีไป ซึ่งภายหลังผู้เสียหายทั้ง 5 ราย ได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา

จากการสืบสวน ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด และจากกลุ่มแก๊งค์วัยรุ่นในพื้นที่ ข้อมูลจากสื่อออนไลน์ต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่สามารถสืบทราบว่าผู้ต้องหา เป็นเยาวชน

และเมื่อวันที่ 29 เม.ย.67 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาปากคำที่ สภ.ภูพิงค์ฯ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การยอมรับว่า ได้เป็นคนที่ขับขี่รถจยย. ไปข่มขู่ขอเงินจากบุคคลทั่วไปตามวันเวลาสถานที่เกิดเหตุจริง โดยใช้อาวุธมีดตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดได้จริง โดยรับว่าสารภาพที่ทำไปเพราะความคึกคะนอง

อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหา
1. ร่วมกันพยายามชิงทรัพย์เวลากลางคืน โดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร (ผู้เสียหายที่ 1, 2, 3, และ 5)
2. ร่วมกันชิงทรัพย์เวลากลางคืน โดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร (ผู้เสียหายที่ 4)

///////////// นิวัตร ธาตุอินจันทร์ เชียงใหม่