แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบในพื้นที่ จ.ยะลา หลังมีกลุ่มคนร้ายก่อเหตุบุกปล้น เผา ระเบิด

Uncategorized

อะหมัด/มาวันดี/ยะลา/22 มี.ค.67 /ยะลา/082-260-8313

แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบในพื้นที่ จ.ยะลา หลังมีกลุ่มคนร้ายก่อเหตุบุกปล้น เผา ระเบิด กลางดึกที่ผ่านมา

จากเหตุการณ์ที่มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนออกแสดงศักยภาพของกลุ่ม ได้ออกบุกปล้น – วางเพลิง – ระเบิด จำนวนหลายจุดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในช่วงกลางดึกของวันที่ 22 มี.ค.67 ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และมีทรัพย์สินต่างๆได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ขณะที่ฝ่ายความมั่นคง เชื่อว่า เป็นเรื่องของการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ครบรอบเหตุการณ์ 20 ปี ในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ในปฏิทินอิสลาม 11 รอบ ซึ่งในช่วงรอมฎอน ฮ.ศ.1445 จะไม่ตรงกับของเราที่จะครบรอบในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 จึงจะครบรอบ 20 ปี

ล่าสุด วันนี้ 22 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามคืบหน้าเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งในช่วงบ่ายที่ผ่านมา พลโทศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พลตรี นิติ ติณสูลานนท์ ผบ.ฉก.ยะลา และ รอง ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดยะลา ลงตรวจสอบพื้นที่ ที่เกิดเหตุหลายจุดในพื้นที่ จ.ยะลา หลังเกิดเหตุการณ์คนร้ายบุกปล้น – เผา – ระเบิด เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา พร้อมประฌามกลุ่มก่อเหตุที่ก่อกวนสร้างความเดือดร้อน ขณะที่พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ต่างร่วมกันทำความดีในเดือนรอมฎอน ฮ.ศ.1445 อันประเสริฐ
พลโทศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นมีมากพอสมควร อันเนื่องมาจากการก่อกวนของกลุ่มคนร้าย ซึ่งดูจากพฤติกรรมแล้วเป้าหมายของการก่อเหตุครั้งนี้ คนร้ายไม่ได้มุ่งต่อชีวิตประชาชน แต่จะมุ่งไปที่การทำลายทรัพย์สินมากกว่า ซึ่งห้วงเวลาของการก่อเหตุนั้นอยู่ในช่วงเดือนรอมฎอน ถือเป็นเดือนที่ทุกคนมีแต่ปฏิบัติความดี ดังนั้น การก่อเหตุดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ทุกคนไม่เห็นด้วยและต้องช่วยกันประณามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้

แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุด้วยว่า ในห้วงที่ผ่านมา ตนได้เน้นย้ำเรื่องของฐานปฏิบัติการ หรือที่ตั้งของหน่วย ให้ช่วยกันดูแล โดยสังเกตได้จากเหตุเมื่อคืนนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ตรงนี้เป็นจุดที่เราต้องนำมาวิเคราะห์และปรับปรุงว่าจะทำอย่างไรให้ดูแลความปลอดภัยได้ทุกพื้นที่

ทั้งนี้ หลังจากนี้อาจต้องมีการปรับเรื่องของห้วงเวลาการก่อเหตุ เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุนั้น เขาจะดูช่องว่างของการทำงาน เมื่อไหร่ที่มีโอกาส ทางหนีพร้อม จะกระทำในทันที

สำหรับในพื้นที่จังหวัดปัตตานี มีแรงงานชาวพม่า เสียชีวิต 1 ราย ซึ่ง เป็นเหตุการณ์วางระเบิดหัวจ่ายน้ำมัน ภายในปั๊ม น้องแรงงานพม่าอยู่ภายในห้องพักได้โดนสะเก็ตระเบิด ต้องขอแสดงความเสียใจ ต่อผู้ที่เสียชีวิต และครอบครัวอีกด้วย