(newspaper) วุฒิสภานัดถกงบฯ 69 วันที่ 1-2 ก.ย.นี้
วันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลา 13.00 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา (สส.) นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) กล่าวถึงการประชุมวุฒิสภาที่ผ่านมาว่า ได้มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การขนส่งทางราง พ.ศ. …. ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้วสาระสำคัญเพื่อให้มีกฎหมายกำกับดูแลกิจการขนส่งทางราง ให้สามารถยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมการขนส่งทางราง การบริหารจัดการการขนส่งทางรางอย่างเป็นระบบ สอดคล้องกับการพัฒนาการขนส่งรูปแบบอื่น ๆ ให้เป็นโครงข่ายเดียวกันอย่างสมบูรณ์ โดยได้ลงมติรับร่างฯ ไว้พิจารณาด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 156 เสียง ไม่เห็นด้วย ไม่มี งดออกเสียง 3 เสียง และตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา จำนวน 21 คน กำหนดแปรญัตติภายใน 7 วัน
.
นอกจากนี้ ยังได้พิจารณาญัตติเรื่อง ขอให้วุฒิสภาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิก MOU 2543 และ MOU 2544 เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่ง พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา เป็นผู้เสนอ เนื่องจากเห็นว่า MOU ทั้ง 2 ฉบับที่รัฐบาลไทยในอดีตทำกับรัฐบาลกัมพูชามีปัญหา อาจทำให้ประเทศไทยเสี่ยงที่จะสูญเสียดินแดนทั้งทางบกและทางทะเล อันเป็นผลประโยชน์ของชาติ ที่ประชุมจึงได้มีมติเห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษา จำนวน 25 คน ประกอบด้วย สมาชิกวุฒิสภา จำนวน 15 คน และผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก จำนวน 10 คน กำหนดระยะเวลาดำเนินงาน 90 วัน
.
สำหรับการประชุมวุฒิสภาในวันจันทร์ที่ 1 กันยายน 2568 มีวาระสำคัญ ประกอบด้วย การตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง และการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ซึ่งจะพิจารณาต่อเนื่องจนถึงวันอังคารที่ 2 กันยายน 2568 โดยได้กำหนดเวลาอภิปรายของผู้แทนคณะกรรมาธิการสามัญประจำวุฒิสภา จำนวน 60 คน ๆ ละ 10 นาที และสมาชิกวุฒิสภา คนละ 10 นาที อภิปรายตามแต่ละด้าน ได้แก่ 1. ภาพรวม งบกลาง เงินคงคลัง 2. ด้านเศรษฐกิจ 3. ด้านสังคม 4. ด้านภัยพิบัติและทรัพยากรธรรมชาติ และ 5. ด้านบริหารและอื่น ๆ