สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 จับกุม “น้ำหอม บุหรี่ต่างประเทศ กระเป๋า รองเท้า ละเมิดเครื่องหมายการค้า โดรน (Drone) และไวน์ เมืองกำเนิดต่างประเทศ” มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจรวมกว่า 126.14 ล้านบาท
ตามนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำของผิดกฎหมายเข้าในประเทศ
ดร. เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้กรมศุลกากรเข้มงวดในการปราบปรามสินค้าผิดกฎหมาย เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาล กรมศุลกากร โดยนายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร รับนโยบายและสั่งการให้ทุกหน่วยปฏิบัติการอย่างเคร่งครัด
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2568 นางสาวสุนทรียา ทวิชาประสิทธิ์ รองอธิบดีกรมศุลกากร และนางสาวลลิตา อรรถพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 16 – 17 ธันวาคม 2568 ได้สั่งการให้
นายสุรัตน์ เรืองประยูร ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร ศภ.2 พร้อมด้วยนายณัฐภูมิ ดอกพุฒ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม สคศ. ศภ.2 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ศภ.2 ด่านศุลกากรนครพนม และหน่วยสืบสวนปราบปรามประจำพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฝปป.2 สปป.1 กสป. ทำการตรวจสอบสินค้าตามใบขนสินค้าขาเข้า เนื่องจากสืบสวนเชื่อว่ามีสินค้าที่พยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากรหรือหลีกเลี่ยงข้อห้ามข้อกำกัด
ผลการตรวจสอบ พบสินค้าที่ไม่ได้สำแดง ได้แก่ น้ำหอม เมืองกำเนิดต่างประเทศ จำนวน 121 ขวด บุหรี่ต่างประเทศ จำนวน 60 แท่ง (12,600 มวน) สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า เมืองกำเนิดต่างประเทศ ได้แก่ กระเป๋า จำนวน 1,820 ใบ รองเท้า จำนวน 4,450 คู่ โดรน (Drone) จำนวน 10 เครื่อง และไวน์ เมืองกำเนิดต่างประเทศ จำนวน 36 ขวด น้ำหนักรวม 5,873 กิโลกรัม มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจรวมกว่า 126.14 ล้านบาท จึงยึดสินค้าทั้งหมดเก็บรักษาไว้ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เป็นความผิดฐานยื่นใบขนสินค้า เอกสาร หรือข้อมูลไม่ถูกต้อง และเป็นการนำของที่ผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากร และหลีกเลี่ยงข้อห้ามข้อจำกัดอันเกี่ยวกับของนั้น ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 พระราชบัญญัติสรรพสามิต พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 และพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498
ทีมข่าวรายงาน
วิลาสินี เจริญสุข/มุกดาหาร
081-5926966











