*”ดร.มหานิยม”เปิดใจลาออกจาก”เพื่อไทย”ทั้งน้ำตาหลังอยู่มาเกือบ20ปี/ยันย้ายซบ”พปชร.”แต่ปณิธานไม่เปลี่ยนยึดมั่นเพื่อพุทธศาสนา-ประชาชน*
สร้างความตื่นเต้นตื่นตะลึงสำหรับคอการเมือง โดยเฉพาะ ข่าวพรรคสีแดง “เพื่อไทย” มาเป็นระยะๆ เมื่อสมาชิกพรรค อดีต สส. หรือ อดีตรัฐมนตรีของพรรค ทยอยพาเหรดลาออกไปซบพรรคอื่นหลายราย ด้วยเหตุผลไม่ต่างกันมากนัก
และที่ฮือฮามากยิ่งขึ้นไปอีก ก็คือ “ดร.มหานิยม” – “ดร.นิยม เวชกามา” อดีต สส.สกลนคร เขต 2 ของพรรคเพื่อไทย (พท.) และอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คนเก่าคนแก่ของพรรค พท. อดีต สส.สกลนคร 4 สมัย ก็ตัดสินใจย้ายไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ของ “ลุงป้อม” “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ”
สร้างความแปลกใจเซอร์ไพรส์อย่างยิ่งทั้งจากสื่อต่างๆ แฟนๆเอฟซีของ ดร.มหานิยม ทั้งหลาย รวมทั้งชาวสกลนครที่สนับสนุน ดร.มหานิยม มาอย่างยาวนาน แม้ว่าการเลือกตั้ง สส.ปี 2566 เขาจะพ่ายการเลือกตั้งไปแบบฉิวเฉียดก็ตาม
มีคำถามตามมามากมายว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไม ดร.มหานิยม จึงตัดสินใจย้ายไปอยู่พรรคซึ่งได้ชื่อว่าอยู่คนละฟากฝั่งกับเพื่อไทยก็ว่าได้ (แม้ว่ารัฐบาลที่แล้วจะได้ร่วมงานกันก็ตาม)
ถามว่า มีแรงกดดันหรือแรงจูงใจอะไรหรือสำหรับ ดร.นิยม เวชกามา?!?
โดยเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 ณ ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ ถนนประชาราษฎร์สาย 1 เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้นำคณะผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐ
อาทิ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.แรงงาน ในฐานะรองหัวหน้าพรรค และสส.สระแก้ว นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ เหรัญญิกพรรคและนายทะเบียนพรรค มล.กรณสิวัฒน์ เกษมศรี นายวัน อยู่บำรุง กรรมการบริหาร นำคณะผู้บริหารพรรค แถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.จำนวน 80 คน และแต่งตั้งประธานที่ปรึกษาพรรค คือ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สมัย ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมอดีต สส. และอดีตรัฐมนตรี ของพรรค พท.เช่น
นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย เขต 1 พรรคพปชร. นายสมศักดิ์ คุณเงิน อดีต สส. ขอนแก่น พรรคพปชร. นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต สส. เชียงราย พรรค พท. นายสุชาติ ลายน้ำเงิน อดีต สส. ลพบุรี พรรคพท. นายไกร ดาบธรรม อดีต สส. เชียงใหม่ พรรค พท. นายสุรพล เกียรติไชยากร อดีต สส.เชียงใหม่ พรรคพท. อดีตที่ปรึกษา รมว.วัฒนธรรมในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน
นายศักดา คงเพชร อดีต สส.ร้อยเอ็ด พรรค พท.
นายอนันต์ ศรีพันธุ์ อดีต สส.อุดรธานี พรรค พท.
นางมุกดา พงษ์สมบัติ อดีตสส.ขอนแก่น พรรค พท. มาร่วมทำงานกับพรรค พปชร.
“รวมทั้ง ดร.มหานิยม – ดร.นิยม เวชกามา อดีต สส.สกลนคร พรรค พท. ด้วย”
เรียกว่าเป็น “ผึ้งแตกรัง” ครั้งใหญ่เพราะรายนามหลายคนดังกล่าวล้วนเป็นคนเก่าแก่ที่อยู่กับ ดร.ทักษิณ และ พรรค พท.มานาน
“ดร.มหานิยม” เปิดใจถึงสาเหตุการย้ายพรรคครั้งนี้ว่า
“ผมลาออกจากพรรคเพื่อไทยทั้งน้ำตา อยู่มา 17 ปีไม่เคยทำความเสื่อมเสียให้พรรคมีแต่ส่งเสริมพรรค สุดท้ายไม่มีที่ยืนในพรรคน่าสงสารตัวเองจริงๆ ต้องไปหาบ้านใหม่ซึ่งยังไม่ทราบว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร”
ดร.มหานิยม อธิบายว่า แม้การเลือกตั้ง สส.ปี 2566 เขาจะสอบตกแต่ก็ทำงานลงพื้นที่ตลอด ทั้งรับเรื่องราวทุกข์ร้อนของพี่น้องทุกอย่าง และที่สำคัญคือ งานทางด้านวัด พระสงฆ์องค์เจ้า งานพระพุทธศาสนา ไม่เคยบกพร่องแม้ไม่ได้เป็นสส.ก็ตาม
“ในรัฐบาลท่านเศรษฐา ทวีสิน ผมเป็นประธานที่ปรึกษา ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐบาลท่านแพทองธาร ชินวัตร ผมเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ท่านชูศักดิ์ ศิรินิล และ ท่านสุชาติ ตันเจริญ ดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ช่วยงานรัฐบาลและประเทศชาติไม่เคยขาดตกบกพร่อง”
ดร.มหานิยม กล่าวต่อไปว่า
“แต่เมื่อมีการเตรียมการวางว่าที่ผู้สมัคร สส.สกลนคร เขต 2 ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ทางพรรค พท. จะไม่ให้ผมลงสมัคร สส.เขตเหมือนทุกครั้ง ให้ผมไปอยู่ปาร์ตี้ลิสต์แทน ซึ่งก็ไม่รู้อยู่ลำดับที่เท่าไรด้วย ซึ่งผมยืนยันกับกรรมการบริหารพรรค พท.มาตลอด ว่าพร้อมลงสมัคร สส.เขต จะว่าผมอายุ 74 แล้ว แต่ทุกวันนี้ก็ยังแข็งแรงดีมาก แล้วคนที่จะมาลงสมัครแทนที่ผมอายุก็น้อยกว่าผม 2 ปี เท่านั้น จึงไม่ใช่เหตุผลและไม่ยุติธรรมกับผมด้วย”
“ผมมาคิดอยู่ 2-3 เดือนต่อเรื่องที่เกิดขึ้นว่าจะทำอย่างไร ระหว่างนี้ก็มีผู้ใหญ่ทางพรรค พปชร.ประสานมาชวนให้ลงสมัคร สส.เขต สกลนคร ซึ่งตอบโจทย์ที่ผมต้องการลงเขตพื้นที่ได้พบพี่น้องประชาชน”
ดร.มหานิยม ได้ย้ำอีกว่า เขาเป็นนักการเมืองเป็นสส.ของประชาชนและประเทศชาติและมุ่งมั่นทำงานเพื่อพุทธศาสนา ประชาชนและสังคมมาตลอด การย้ายพรรคก็เพื่อจะได้ทำงานอย่างที่ตั้งใจและก็ทำมาตลอดชีวิต เพราะเมื่อพรรคบ้านเดิมอยู่มานานไม่เปิดโอกาสให้ ก็จำใจต้องย้ายออกมา ซึ่งหวังว่าพี่น้องประชาชนทั้งประเทศรวมทั้งชาวสกลนครจะเข้าใจเหตุผลดังกล่าว
“ดร.มหานิยม”ย้ำว่า เขายังมุ่งมั่นจะทำงานตามปณิธานต่อไปไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอนแม้ว่าวันนี้จะย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่แล้วก็ตาม
