กมธ.แรงงาน จัดสัมมนา “การพัฒนากองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง เพิ่มความมั่นคงแก่แรงงานไทย”

Uncategorized

กมธ.แรงงาน จัดสัมมนา “การพัฒนากองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง เพิ่มความมั่นคงแก่แรงงานไทย”

วันที่ 19 กันยายน 2568 เวลา 08.45 นาฬิกา ณ ห้องสัมมนา B1-4 ชั้น B1 อาคารรัฐสภา คณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา จัดสัมมนา “ การพัฒนากองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง เพิ่มความมั่นคงแก่แรงงานไทย” โดยมี นายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง กล่าวเปิดการสัมมนา และ พันตำรวจโท สุริยา บาราสัน รองประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน คนที่สอง วุฒิสภา กล่าวรายงาน พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการแรงงาน วุฒิสภา คณะกรรมาธิการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสื่อมวลชนเข้าร่วม
.
รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง กล่าวว่า การสัมมนาในครั้งนี้ ถือเป็นหัวข้อการสัมมนาที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานไทย เนื่องจากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างเป็นกลไกสำคัญที่มีบทบาทในการคุ้มครองสิทธิ และสร้างหลักประกันความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมให้แก่แรงงาน การดำเนินการปรับปรุงและเพิ่มบทบาทของกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างย่อมต้องอาศัย การพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้การพัฒนากองทุนเป็นไปอย่างเหมาะสม และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อแรงงานไทย รวมถึงเป็นการเปิดเวทีเพื่อรับข้อมูลจากหลายภาคส่วน และสามารถนำข้อคิดเห็นเหล่านี้ไปใช้ประกอบการพิจารณา และจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายต่อไป
.
โดยในช่วงเช้ามีการบรรยายเกี่ยวกับวิวัฒนาการของกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างและแนวทางการให้หลักประกันค่าชดเชยแก่ลูกจ้าง โดยวิทยากรคือ นายเซีย จำปาทอง รองประธานคณะกรรมาธิการแรงงาน คนที่สาม สภาผู้แทนราษฎร และนายชินโชติ แสงสังข์ รองประธานคณะกรรมาธิการแรงงาน คนที่สาม วุฒิสภา

ต่อจากนั้น มีการสัมมนาในประเด็นที่เกี่ยวกับหลักการ เหตุผล และความจำเป็นของร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่..) พ.ศ. … แก้ไขเพิ่มเติมนในประเด็น เพิ่มบทท้ายนิยามคำว่า “เงินสมทบเพิ่มเติม” และ “กองทุน” แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างให้ครอบคลุมถึงการเป็นหลักประกัน ในการจ่ายค่าชดเชยและเงินอื่นให้แก่ลูกจ้าง และการบริหารจัดการเกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน แก้ไขเพิ่มเติมที่มาของเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างและกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช่จ่ายเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง และแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การเข้าเป็นสมาชิกกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง และการนำส่ง เงินสะสมและเงินสมทบ การจ่ายเงินสะสมและเงินสมสบให้แก่ลูกจ้าง เพิ่มเติมสิทธิการเป็นสมาชิกและคงเงิน ในกองทุนต่อไปเมื่อลูกจ้างออกจากงานและสิทธิการโอนเงินไปยังกองทุนอื่น พร้อมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดหลักประกันในการจ่ายค่าชดเชย และเงินอื่นให้แก่ลูกจ้าง ให้นายจ้างนำส่งเงินสมทบเพิ่มเติมเข้ากองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง เงื่อนไขการจ่ายเงิน
สมทบเพิ่มเติมให้แก่ลูกจ้าง และหลักเกณฑ์การออกคำสั่งยึดอายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สิน กรณีนายจ้างไม่นําส่งเงินสมทบเพิ่มเติม และเพิ่มเติมการทบทวนอัตราเงินสะสม เงินสมทบ และเงินสมทบ
เพิ่มเติม และหลักเกณฑ์ การหยุดหรือเลื่อนการนําส่งเงินสะสม เงินสมทบ และเงินสมทบเพิ่มเติม ในกรณีที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจสาธารณภัย หรือเหตุการณ์อื่น โดยมีวิทยากรผู้อภิปรายคือ นายณรงค์ฤทธิ์ วรรณโส ผู้อํานวยการกองนิติการ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา รศ.ดร. กิริยา กุลกลการ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายธนาศักดิ์ กิจรุ่งโรจน์ รองประธานคณะกรรมการแรงงานและพัฒนาฝีมือแรงงานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายมนัส โกศล ประธานสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย
.
โดยวัตถุประสงค์การจัดสัมมนาในครั้งนี้เพื่อศึกษาเจตนารมณ์ วิวัฒนาการและความเป็นมาของกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง อีกทั้งศึกษาข้อดี – ข้อเสีย รวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเพิ่มวัตถุประสงค์ของกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง และเพื่อประมวลรวมองค์ความรู้ ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะที่ได้รับจากการสัมมนาจัดทำเป็นรายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการเสนอต่อวุฒิสภาเพื่อส่งไปยังคณะรัฐมนตรีต่อไป