สกลนคร ระบาดแล้ว 4 อำเภอ อสม.ควบ จยย.เคาะประตูบ้าน กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย หลังผู้ป่วยสะสมทั่วประเทศเพิ่มกว่าปี 2566
17 มิ.ย.67 สถานการณ์ไข้เลือดออก ที่จังหวัดสกลนคร มี 18 อำเภอ พบผู้ป่วยสะสมแล้ว 93 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 8.12 ต่อประชากรแสนคน ยังไม่มีผู้เสียชีวิต และข้อมูลล่าสุด ระหว่าง 12 พฤษภาคม – 8 มิถุนายน 2567 เป็นรอบสัปดาห์ที่ 23 ของ ปี 2567 พบผู้ป่วย 22 ราย พื้นที่ระบาดอยู่ที่ อ.เมืองสกลนคร จำนวน 5 ราย อ.ภูพาน 6 ราย อ.นิคมน้ำอูน 9 ราย อ.เจริญศิลป์ 1 ราย และพื้นที่เสี่ยง คือ อ.พรรณนานิคม ผู้ป่วย 1 ราย
ขณะที่นางบุษบา วงศ์เตชะ อายุ 52 ปี ประธาน อสม.บ.หนองยาง ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร นำ อสม.หมู่บ้าน ขับจักรยานยนต์ตระเวนนำทรายอะเบทไปมอบให้ชาวบ้านถึงหน้าบ้าน ตามวงรอ บสัปดาห์ ครัวเรือนละ 10 ซอง ดำเนินการครอบคลุมแล้ว 400 เรือน โดยแจกทรายอะเบทไปแล้ว 1 พันซอง พร้อมลงพื้นที่เยี่ยมผู้สูงอายุ และรณรงค์ให้กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย พลิกคว่ำภาชนะถ้วยชาม กระป๋อง ที่มีน้ำขังไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย สัปดาห์ละ 1 ครั้ง และนำทรายอะเบทไปหย่อนตามแหล่งน้ำขังรอบหมู่บ้าน
จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคทางระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การระบาดโรคไข้เลือดออก ประจำปี 2567 ตั้งวันที่ 1 ม.ค.67 – 12 มิ.ย.67 ประจำสัป ดาห์การระบาด ที่ 23 มีผู้ป่วยสะสม 32,140 คน อัตราป่วย 48.28 ต่อประชากรแสนคน ผู้เสีย ชีวิตทั่วประเทศ 34 ราย อัตราป่วยตาย ร้อยละ 0.11 เมื่อเทียบจำนวนผู้ป่วย ปี 2567 กับ ปี 2566 เพิ่มขึ้น 1.3 เท่าในช่วงเวลาเดียวกัน พบยอดผู้ป่วยสูงสุดในกลุ่ม อายุ 5 – 14 ปี มีผู้ป่วยสะสม จำนวน 9,585 เสียชีวิตแล้ว 9 ราย ทำให้ต้องมีการเฝ้าระวังการระบาดทั่วประเทศ พร้อมขอความร่วมมือในการป้องกันและกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย
สำหรับประชาชนหากมีอาการสงสัยโรคไข้เลือดออก เช่น มีอาการไข้สูงลอย ร่วมกับอาการปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา หน้าแดง คลื่นไส้ อาเจียน อาจมีผื่นหรือมีจุดเลือดออกที่ลำตัว แขน ขา เป็นต้น ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง ยาลดไข้ที่ปลอดภัยคือยาพาราเซตามอล ตามขนาดยาที่กำหนด ควรหลีกเลี่ยงยาลดไข้ในกลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค แอสไพริน รวมถึงยาชุด ซึ่งอาจมีผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่นเลือดออกในทางเดินอาหารและยากต่อการรักษา ทั้งนี้หากรับประทานยาลดไข้หรือเช็ดตัวแล้ว ไข้ไม่ลดภายใน 1-2 วัน (นับจากวันที่เริ่มมีไข้) ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ซึ่งโรคไข้เลือดออกหากได้รับการรักษาเร็วจะสามารถป้องกันอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
……………………………………………………….///////ทวีป ศรีสุชาติ///รายงาน